ประวัติและชีวิตส่วนตัว ของ ไมเคิล ไฮเซอร์

ต้นกำเนิด

ไมเคิล ไฮเซอร์เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ.1944 ในเมืองเบิร์กลีย์รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นลูกชายของ ดร.โรเบิร์ต ไฮเซอร์ นักมานุษยวิทยาที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลานั้นเขาเรียนในโรงเรียนมัธยมในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 1 ปี [1]

เริ่มเป็นศิลปิน

ไฮเซอร์เริ่มต้นชีวิตศิลปิน โดยในช่วงแรกเคยสนใจเกี่ยวกับแนวคิดและสุนทรียศาสตร์ของสิ่งที่ปัจจุบันเรียกว่า มินิมอลิซึ่ม ก่อนจะฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์ ในช่วงนี้เองที่เขาได้พบบกับศิลปินมากมายไม่ว่าจะ คาร์ล อังเดร, แดน ฟลาวิน, แฟรงค์ สเตลล่า, วอลแตร์ เดอ มาเรีย และโทนี่ สมิธ ช่วงหลังปี 1960 ไฮเซอร์ได้หลบหนีจากความรู้สึกที่ถูกจำกัดของเมืองนิวยอร์กไปยังแถบทะเลทรายบริเวณรัฐแคลิฟอเนียและรัฐเนวาด้า ซึ่งสถานที่นี้เองที่ศิลปินสามารถสร้างผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสถาบันทางศิลปะ หรือเส้นแบ่งเขตแดนงานศิลปะที่มีจุดประสงค์เพื่อหวังกำไรของพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ ในทะเลทรายที่ว่างเปล่านี้เองที่ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงาน Doble Negative (1969-70) โดยได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมของพวกอียิปต์ อินคา มายา ซึ่งเป็นสถานที่ที่พ่อของศิลปิน ซึ่งเป็นทั้งนักโบราณคดีและนักมานุษยวิทยาได้พาศิลปินไปเปิดโลกกว้างในช่วงวัยเยาว์ [2]

จุดพลิกผันให้กลายเป็นศิลปินผู้โด่งดัง

พวกเขาเดินทางไปทางทิศตะวันตกในปีค.ศ. 1967 กับเพื่อนร่วมงานของเขาชื่อวอลเตอร์ เด มาเรีย และสร้างรูปแบบใหม่ของ "ศิลปะภูมิทัศน์" (land art) ซึ่งใช้ดินเป็นวัสดุ โดยระยะห่างของจากสตูดิโอแคบของนิวยอร์กนี้เองที่ทำให้ศิลปินสามารถนำเสนองานศิลปะของเขาให้ออกนอกขอบเขตของผนังสีขาวในพิพิธภัณฑ์ ผลงานของเขาที่เป็นประวัติการณ์และมีชื่อเสียงที่สุดคือ” Double Negative” ซึ่งเป็นการร่วมมือสร้างผลงานศิลปะระหว่างไฮเซอร์และศิลปินภูมิทัศน์ในยุคแรกๆ อีกทั้งผลงานของเขายังไปปรากฏในภาพยนตร์ของโรเบิร์ต สมิทสัน (Roberth Smithson) ในผลงานที่ชื่อ Spiral Jetty ซึ่งเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงในระดับโลก[3]

ในปีค.ศ. 1972 ไฮเซอร์ เริ่มก่อสร้างผลงานศิลปะโดยการติดตั้งงานขนาดใหญ่ในสถานที่ที่รู้จักในฐานะเมืองในทะเลทรายที่ชนบทลินคอล์นเคาน์ตี้ รัฐเนวาดา หลังจากเริ่มมีชื่อเสียง ไฮเซอร์เริ่มรู้สึกประหม่ายามที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ จนต่อมาเขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะที่ศิลปินที่รักสันโดษ อย่างไรก็ตามเขายังคงผลิตงานจิตรกรรม และประติมากรรมขนาดเล็ก โดยผลงานเหล่านี้ถูกให้ความสนใจอย่างล้นหลามในการแสดงนิทรรศการเดี่ยวของเขา (ผลงานที่เด่นที่สุดจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย, ลอส แองเจิลลิส และวิทนีย์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอเมริกันนิวยอร์ก) ตอนนี้ผลงานของเขาปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์และพื้นที่สาธารณะทั่วโลก[4]

ชีวิตปัจจุบัน

ในปีค.ศ. 1995 ไฮเซอร์ ได้รับการวินิจฉัยที่มีความผิดปกติทางระบบประสาทที่เรียกว่า polyneuropathy ทำให้ความสามารถในการใช้มือของเขาลดลง ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่กับภรรยาคนที่สองชื่อแมรี่ฮาน และยังคงทำงานศิลปะของเขาจนถึงทุกวันนี้[5]

แหล่งที่มา

WikiPedia: ไมเคิล ไฮเซอร์ http://nga.gov.au/internationalprints/tyler/DEFAUL... http://www.contemporaryartdaily.com/2010/11/michae... http://www.gagosian.com/artists/michael-heizer/ http://www.gagosian.com/artists/michael-heizer/sel... http://googlesightseeing.com/2013/10/michael-heize... http://www.pacegallery.com/newyork/exhibitions/117... http://pictify.com/21699/michael-heizer-double-neg... http://doublenegative.tarasen.net/double_negative.... http://doublenegative.tarasen.net/heizer.html http://doublenegative.tarasen.net/index.html/